FAQ[Frequncy Asked Question] CROCOSIA คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับน้ำมันจระเข้ CROCOSIA (Siamese Crocodile oil for Skin healer and beauty uses)
FAQ[Frequncy Asked Question] CROCOSIA
คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับน้ำมันจระเข้ CROCOSIA
>>Siamese Crocodile oil for Skin healer and beauty uses<<
1. CROCOSIA คืออะไร?
CROCOSIA เป็นนวัตกรรมใหม่ของ “น้ำมันจระเข้” จากแนวทางการคิดค้นและพัฒนากระบวนการสกัดน้ำมันจากไขมันของจระเข้สายพันธุ์ไทย(Crocodylus Siamnensis) ซึ่งจัดเป็น “Waste Product” หรือวัตถุดิบเหลือใช้จากอุตสาหกรรมเนื้อและหนังจระเข้ในประเทศ เพื่อมาต่อยอดใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและเวชสำอาง ด้วยขั้นตอนและวิธีการสกัดที่เป็นเทคนิคเฉพาะ ผ่านการวิจัยและพัฒนาโดยทีมงานนักวิจัยฝ่ายนวรรตกรรม(Innovation teams) ควบคุมคุณภาพและผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ภายใต้สิทธิบัตรของบริษัท CDIP (Thailand)Co.Ltd. ส่งผลให้ได้วัตถุดิบน้ำมันจระเข้ที่มีคุณภาพที่ดีขึ้น คงปริมาณสารสำคัญ ขจัดสิ่งแปลกปลอมและลดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์
2. CROCOSIA มีลักษณะอย่างไร?
CROCOSIA เป็นน้ำมันจระเข้ สกัดจากไขมันจระเข้สายพันธุ์ไทย Crocodylus Siamnensis มีลักษณะทางกายภาพเป็นน้ำมัน ของเหลวใส บริสุทธิ์ 100% ปราศจากสิ่งเจือปน ประกอบไปด้วยกรดไขมันสำคัญ 3 ชนิด ได้แก่ กรดไขมันปาล์มมิติก(Palmitic Acid),กรดไขมันโอเลอิก(Oleic Acid) และกรดไขมันไลโนเลอิก (Linoleic Acid) หรือที่รู้จักกันในชื่อของโอเมก้า3,6 และ 9(Omega 3,6,9) ดำเนินการผลิตภายใต้สิทธิบัตรของบริษัท CDIP (Thailand) Co.Ltd. แต่เพียงผู้เดียว และจัดจำหน่ายใน 3 เกรดตามระดับคุณภาพ ได้แก่ เกรดมาตรฐาน(Standard Grade: ST),เกรดพรีเมี่ยม(Premium Grade: PM) และเกรด ไฮ เพอร์ฟอร์มานซ์(High Performance: HP)
3. CROCOSIA น้ำมันจระเข้สายพันธุ์ไทย แตกต่างจากน้ำมันจระเข้สายพันธุ์อื่นหรือไม่
อ้างอิงข้อมูลจากงานวิจัยในการวัดปริมาณกรดไขมันสำคัญในน้ำมันจากไขมันจระเข้ลุ่มน้ำไนล์(NileCrocodile: C.niloticus) และจระเข้น้ำเค็ม(C.pyrosus) เทียบกับผลวิเคราะห์น้ำมันจระเข้ CROCOSIATM ซึ่งเป็นน้ำมันจากไขมันจระเข้สายพันธุ์ไทย(C.Siamnensis) พบว่ามีชนิดและปริมาณกรดไขมันสำคัญคือ กรดไขมันปาล์มมิติก(Palmitic fatty acid) ในปริมาณที่ใกล้เคียงกัน นอกจากนี้จากงานวิจัยเกี่ยวกับน้ำมันที่สกัดจากไขมันจระเข้สายพันธุ์ไทย(C.Siamnensis) ชื่อว่า “Crocodile oil enhances cutaneous burn wound healing and reduces scar formation in rats” โดยHua-Liang Li, PhDและคณะ ที่ได้รับการตีพิมพ์ใน Academic Emerg Medicine เมื่อปี 2012 ได้ผลการทดลองและข้อสรุปที่ว่า ในน้ำมันจากจระเข้สายพันธุ์ไทย(C.Siamnensis) พบปริมาณกรดไขมันสำคัญเป็นส่วนใหญ่ 3 ชนิด ได้แก่ กรดไขมันปาล์มมิติก(Palmitic Acid),กรดไขมันโอเลอิก(Oleic Acid) และกรดไขมันไลโนเลอิก (Linoleic Acid) นอกจากนี้พบว่าน้ำมันจากจระเข้สายพันธุ์ไทยสามารถช่วยสมานแผลน้ำร้อนลวกขนาดเล็ก ให้ปิดสนิทได้เร็วกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม(Control)และกลุ่มที่รักษาแผลด้วยน้ำเกลือ หรือ Silver Salfadiazine อีกทั้งชั้นผิวที่เกิดขึ้นใหม่นั้นมีการเรียงตัวของชั้นผิวคอลลาเจนที่เป็นระเบียบ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะน้ำมันจระเข้มีฤทธิ์ควบคุมยีนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างชั้นผิวใหม่ ลดการเกิดรอยแผลเป็น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น