บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก พฤศจิกายน 30, 2016

น้ำมันจระเข้สายพันธุ์ไทย แตกต่างจากน้ำมันจระเข้สายพันธุ์อื่นหรือไม่

รูปภาพ
อ้างอิงข้อมูลจากงานวิจัยในการวัดปริมาณกรดไขมันสำคัญในน้ำมันจากไขมันจระเข้ลุ่มน้ำไนล์(NileCrocodile: C.niloticus) และจระเข้น้ำเค็ม(C.pyrosus) เทียบกับผลวิเคราะห์น้ำมันจระเข้ CROCOSIA ซึ่งเป็นน้ำมันจากไขมันจระเข้สายพันธุ์ไทย(C.Siamnensis) พบว่ามีชนิดและปริมาณกรดไขมันสำคัญคือ กรดไขมันปาล์มมิติก(Palmitic fatty acid) ในปริมาณที่ใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ อ้างอิงจากงานวิจัยเกี่ยวกับน้ำมันที่สกัดจากไขมันจระเข้สายพันธุ ์ไทย(C.Siamnensis) ชื่อว่า “Crocodile oil enhances cutaneous burn wound healing and reduces scar formation in rats” โดยHua-Liang Li, PhDและคณะ ที่ได้รับการตีพิมพ์ใน Academic Emerg Medicine เมื่อปี 2012 ได้ผลการทดลองและข้อสรุปที่ว่า ในน้ำมันจากจระเข้สายพันธุ์ไทย(C.Siamnensis) พบปริมาณกรดไขมันสำคัญเป็นส่วนใหญ่ 3 ชนิด ได้แก่ กรดไขมันปาล์มมิติก(Palmitic Acid),กรดไขมันโอเลอิก(Oleic Acid) และกรดไขมันไลโนเลอิก (Linoleic Acid) นอกจากนี้พบว่าน้ำมันจากจระเข้สายพันธุ์ไทยสามารถช่วยสมานแผลน้ำร้อนลวกขนาดเล็ก ให้ปิดสนิทได้เร็วกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม(Control)และกลุ่มที่รักษาแผลด้ว...