FAQ[Frequncy Asked Question] CROCOSIA คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับน้ำมันจระเข้ CROCOSIA

FAQ[Frequncy Asked Question] CROCOSIA
คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับน้ำมันจระเข้ CROCOSIA

>>Getting start with Crocodile oil<<
น้ำมันจระเข้ (Crocodile oil)

1. เพราะเหตุใดจึงมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับจระเข้?

นักวิทยาศาสตร์ได้ มีการตั้งข้อสังเกตถึงลักษณะการดำรงชีพของจระเข้ ซึ่งเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำนิ่ง วังน้ำ หรือบึงที่มีโคลนตม1 อุดมไปด้วยเชื้อแบคทีเรียและจุลินทรีย์อยู่เป็นจำนวนมาก อีกทั้งจระเข้ยังเป็นสัตว์นักล่าที่มีความดุร้าย ซึ่งมักเกิดบาดแผลจากการต่อสู้กับจระเข้ในแหล่งอาศัยเดียวกัน หรือกับสัตว์อื่น แต่เป็นที่น่าสนใจว่า บาดแผลที่เกิดขึ้นนั้นสามารถเยียวยาสมานแผลให้ปิดสนิทได้ในระยะเวลาอันสั้น และไม่ติดเชื้อ จากกรณีดังกล่าวจึงเป็นจุดที่สนใจให้เกิดการตั้งทฤษฏี และสมมติฐานต่างๆทางวิทยาศาสตร์ถึงสารสำคัญในร่างกายของจระเข้ที่ช่วยในการต่อสู้กับเชื้อโรคและต่อต้านการติดเชื้อ(Infection)

2. ร่างกายของจระเข้ มีกลไกป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อ (Infection) ได้อย่างไร?

ผลจากการศึกษาพบว่าในร่างกายของจระเข้มีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีเยี่ยม โดยภูมิคุ้มกันในระบบเม็ดเลือดและผิวหนัง สามารถประสานการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในการป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อ(Infection)และสมานแผลได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเกิดบาดแผลขึ้นบนร่างกาย 

3. น้ำมันจระเข้ (Crocodile oil) มีแหล่งที่มาอย่างไร?

น้ำมันจระเข้(Crocodile oil) ทำการสกัดจาก“ไขมันจระเข้(Crocodile fatty tissues)” เนื่องจากจระเข้เป็นสัตว์ที่มีพละกำลังแข็งแรง ในทางสรีรวิทยา(Physiology)จึงมีปริมาณไขมันที่สะสมอยู่ในร่างกายไม่มาก ทำให้สามารถเก็บไขมันจระเข้ได้เฉลี่ยประมาณ 600-800 กรัมจากจระเข้เพียง 1 ตัวเท่านั้น จึงเป็นหนึ่งในข้อจำกัดต่อการศึกษาและพัฒนาการสกัดไขมันจากจระเข้ เนื่องจากต้องใช้เงินลงทุนมากและเทคโนโลยีชั้นสูง ในการสกัดน้ำมันจระเข้ จากวัตถุดิบไขมันที่มีปริมาณไม่มากนัก

4. องค์ประกอบและสารสำคัญในน้ำมันจระเข้มีอะไรบ้าง?

ในไขมันจระเข้ ประกอบไปด้วยกรดไขมันชนิดอิ่มตัว(Saturated fatty acid) และกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัว ( Unsaturated fatty acid) พบสารสำคัญที่มีอยู่ในน้ำมันจระเข้ได้แก่ โอเมก้า(Omega) 3, 6 และ 9 ซึ่งเป็นองค์ประกอบของกรดไขมันปาล์มมิติก(Palmitic Acid),กรดไขมันโอเลอิก(Oleic Acid) และกรดไขมันไลโนเลอิก (Linoleic Acid) ในปริมาณสูง โดยกรดไขมันดังกล่าวมีคุณสมบัติสำคัญในการให้ความชุ่มชื้น บำรุงผิวพรรณ ได้อย่างดีเยี่ยม

5.น้ำมันจระเข้ (Crocodile oil) มีประโยชน์อย่างไร

ผลจากการศึกษาวิจัย พบว่าน้ำมันที่สกัดจากไขมันจระเข้ มีคุณสมบัติเด่นในด้านการบำรุงผิวพรรณ ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ลดอาการอักเสบระคายเคือง จากผิวหนังที่แห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น มีคุณสมบัติของเชื้อแบคทีเรียก่อโรค Staphylococcus aureus, Klebsiella pneumonia5 และลดการเจริญเติบโตเชื้อรา Candida albicans ได้อย่างมีนัยสำคัญสูงถึง 81.7%6 อีกทั้งสามารถช่วยสมานแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ให้หายได้เร็วขึ้น และมีส่วนช่วยกระตุ้นชั้นเซลล์ผิวใหม่และควบคุมเอนไซม์ในการสร้างชั้นผิวให้เป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ชั้นเซลล์ผิวใหม่มีการเรียงตัวที่เป็นระเบียบ ลดการเกิดรอยแผลเป็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

6. น้ำมันจระเข้ (Crocodile oil) มีความปลอดภัยหรือไม่?

น้ำมันจระเข้มีส่วนประกอบที่คล้ายคลึงกับองค์ประกอบไขมันบนผิวหนังของมนุษย์ โดยมีความแตกต่างเพียงจำนวนเปอร์เซ็นต์ของส่วนประกอบที่ปรากฏ และด้วยคุณสมบัติดังกล่าว จึงพบอาการแพ้(Allergic)ได้น้อยมาก เมื่อทาน้ำมันจระเข้ลงบนผิวหนังมนุษย์ อีกทั้งยังมีการยอมรับถึงความปลอดภัยและได้รับความนิยมในการใช้อย่างกว้างขวาง

น้ำมันจระเข้ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์เป็นระยะเวลายาวนานหลายร้อยปี ในหลายวัฒนธรรมที่แตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค อาทิ อียิปต์,จีน,สิงคโปร์,มาเลเซีย,ฟิลิปินส์,อเมริกาใต้,มาดากัสการ์,ออสเตรเลีย, และแอฟริกาใต้ เป็นต้น ในอารยธรรมยุคอียิปต์โบราณพบว่ามีการใช้น้ำมันที่สกัดจากไขมันจระเข้ ในด้านการป้องกันและเยียวยารักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆในมนุษย์9 นอกจากนี้ในอารยธรรมจีนโบราณ พบว่าชาวจีนนั้นมีความผูกพัน และมีการใช้ประโยชน์จากจระเข้มาอย่างยาวนาน โดยชาวจีนได้เริ่มมีการบริโภคเนื้อจระเข้มา เมื่อราว 4,000 ปีก่อน จากบันทึกตำราการแพทย์แผนจีน ชื่อว่า The “Compendium of Materia Medica” โดย หลี่ สือเจิน (Li Shizhen) เภสัชกรชาวจีนผู้มีชื่อเสียงในสมัยราชวงศ์หมิง ได้กล่าวว่า เนื้อจระเข้นั้นเป็นตัวชูกำลังที่มีคุณค่า โดยสามารถรักษาความชื้นและจุดด่างดำบนผิว การรับประทานเนื้อจระเข้เป็นประจำช่วยทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ลดจุดด่างและทำให้มีผิวพรรณที่สวยงาม

ในปัจจุบันพบว่าผู้บริโภคมีการใช้ประโยชน์จากน้ำมันจระเข้เป็นเครื่องสำอางบำรุงผิวพรรณ เพื่อแก้ไขปัญหาสภาพผิวต่างๆ เพื่อความสวยงาม อาทิ ผิวแห้งแตก ผิวหนังลอกเป็นขุย สิว ผิวอักเสบ ริ้วรอย ร่องแก้มลึก จุดด่างดำ อาการแสบร้อนจากแสงแดด (Sunburn) อาการระคายเคือง (irritation) แมลงสัตว์กัดต่อย แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกขนาดเล็ก (burn and wound) และในเชิงการรักษาบรรเทาอาการของโรคผิวหนังเอ็คซีม่า(Eczema) หรือในชื่อ “โรคเรื้อนกวาง” ที่มีลักษณะเป็นผื่นแพ้ ผิวหนังอักเสบแผลตกสะเก็ด มีตุ่มน้ำใส และโรคสะเก็ดเงิน(Psoriasis)

เรียบเรียงโดย Admin ตะเภาแก้ว

‪#‎น้ำมันจระเข้‬ ‪#‎จระเข้‬ ‪#‎crocosia‬ ‪#‎crocodileoil‬ ‪#‎จระเข้ไทย‬ ‪#‎siamesecrocodile‬ ‪#‎วัตถุดิบเครื่องสำอาง‬ ‪#‎ผิวแห้ง‬ ‪#‎น้ำมันสัตว์‬ ‪#‎สกินแคร์‬ ‪#‎แผลเป็น‬ ‪#‎จุดด่างดำ‬ ‪#‎แผลตกสะเก็ด‬ ‪#‎สิว‬ ‪#‎รอยแผลเป็น‬ ‪#‎แผลน้ำร้อนลวก‬ ‪#‎รับจ้างผลิต‬ ‪#‎OEM‬ ‪#‎รับจ้างผลิตอาหารเสริม‬ ‪#‎ผลิตภัณฑ์สุขภาพ‬ ‪#‎รับจ้างผลิตเครื่องสำอาง‬ ‪#‎รับจ้างวิจัย‬ ‪#‎ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร‬ ‪#‎ทำแบรนด์ครีม‬ ‪#‎ทำแบรนด์สบู่‬ ‪#‎ทำแบรนด์เครื่องสำอาง‬ ‪#‎โรงงานผลิตครีม‬ ‪#‎โรงงานผลิตเครื่องสำอาง‬ ‪#‎โรงงานผลิตอาหารเสริม‬

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

5 น้ำมันเพื่อจู๋แข็งแรง

การสกัดน้ำมันสัตว์:การเจียว(Rendering)

น้ำมันจระเข้ คนจีนชอบใช้ แต่ไม่ใช่ทุกจีนที่จะรู้จัก?