การใช้ประโยชน์จากน้ำมันจระเข้(Crocodile oil)
การใช้ประโยชน์
น้ำมันจระเข้ได้ถูกนำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาสภาพผิวต่างๆ รวมถึงใช้บรรเทาอาการของโรคผื่นผิวหนังอักเสบเอ็กซีม่า(Eczema) และ โรคสะเก็ดเงิน(Psoriasis)
- ผิวแห้ง,ริมฝีปากแห้งแตก น้ำมันจระเข้มีคุณสมบัติเด่นในด้านให้ความชุ่มชื้นสูง เหมาะกับลักษณะของผิวแห้ง
- ลดอาการแดง แสบร้อนเนื่องจากแสงแดด(Sunburn) แมลงสัตว์กัดต่อย และอาการระคายเคืองต่างๆ น้ำมันจระเข้ประกอบไปด้วยกรดไขมันที่มีคุณประโยชน์ด้านการบำรุงผิวพรรณ โอเมก้า 3,6 และ 9 ซึ่งมีทธิ์ด้านลดอาการอักเสบ นอกจากนี้น้ำมันจระเข้ยังใช้ในการรักษา บรรเทาอาการผิวตกสะเก็ด ลอกเป็นแผ่น โดยกรดไขมันในน้ำมันจระเข้มีคุณสมบัติสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ในชั้นผิว
- แผลไฟไหม้,น้ำร้อนลวกขนาดเล็ก ด้วยคุณสมบัติของกรดไขมันโอเลอิก(Oleic acid)ในน้ำมันจระเข้ เป็นส่วนประกอบสำคัญในการกระตุ้นการผลัดเซลล์(Cell regeneration) อ้างอิงจากงานวิจัย พบว่าน้ำมันจระเข้มีความสามารถกระตุ้นกระบวนการหายของแผล(wound healing process) ได้ดีเช่นกันเดียวกับการลดการเกิดรอยแผลเป็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- สิว(acne) และรอยอักเสบจากสิว ผลจากการทดสอบแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรียก่อโรคในไขมันที่ได้จากจระเข้ โดยรวมถึงความสามารถในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus aureus ซึ่งก่อให้เกิดการติดเชื้อบนผิวหนัง อีกทั้งได้มีการพิสูจน์แล้วว่าน้ำมันจระเข้นั้นสามารถลดการเจริญเติบโตของเชื้อรา Candida albicans ได้อีกด้วย
- โรคผื่นผิวหนังอักเสบเอ็คซีม่า(Eczema) น้ำมันจระเข้สามารถซึมซาบเข้าสู่ชั้นผิวได้อย่างดี จึงช่วยฟื้นฟูสภาพผิวที่มีปัญหา ลดอาการอักเสบ ช่วยทำให้ผิวมีความอ่อนนุ่ม จากการให้ความชุ่มชื้นและบำรุงผิวเพื่อการฟื้นฟูผิวอย่างเหมาะสม
- โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) น้ำมันจระเข้สกัดจากไขมันจระเข้ ซึ่งประกอบไปด้วยกรดไขมันไลโนเลอิก(Linoleic acid) และกรดไขมันโอเมก้าอื่นๆ ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่ใช้รักษาอาการของโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง, ผื่นคันเอ็คซีมา(Eczema) หรือ โรคเรื้อนกวางและโรคสะเก็ดเงิน(Psoriasis) รวมทั้งให้อาหารและบำรุงรูขุมขน(hair follicles)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น